วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2558

แปลเพลง I really like you - Carly Rae Jepsen

ฟังแล้วโลกมันสีชมพูเลยครับเพลงนี้ อะไรจะน่ารักขนาดน้านนน555


I really wanna stop
But I just got the taste for it
I feel like I could fly with the boy on the moon
So honey hold my hand, you like making me wait for it
I feel I could die walking up to the room, oh yeah

ฉันก็อยากจะหยุดความรู้สึกพวกนี้ไว้น้ะ
แต่เอาจริงๆเก็บมันไว้สักหน่อยก็ดี
ฉันรู้สึกดีมากๆเลยนะกับชายบนดวงจันทร์ (น่าจะเป็นนัยๆว่าชายในฝันครับ)
แล้วก็รู้สึกดีมากๆด้วยเวลาเดินเข้าห้องนอน (...เอ๊ะ ยังไง..)

Late night, watching television
But how'd we get in this position?
It's way too soon, I know this isn't love
But I need to tell you something

นั่งดูทีวีกันตอนดึกๆ
แล้วเรามาอยู่ตรงนี้กันได้ไงเนี่ย
มันน่าจะเร็วเกินไปนะ มันไม่น่าใช่ความรักหรอก
เเต่ก็จะบอกอย่างนึงให้เธอรู้นะ

I really really really really really really like you
And I want you. Do you want me? Do you want me too?
I really really really really really really like you
And I want you. Do you want me? Do you want me too?

ฉันชอบเธอมากๆเลยน้าาาาา
และก็ต้องการเธอด้วย เธอต้องการฉันม้ะ เธอคิดเหมือนกันรึป่าว 

Oh, did I say too much?
I'm so in my head
When we're out of touch
I really really really really really really like you
And I want you. Do you want me? Do you want me too?

เห่ย ฉันพูดไรเยอะไปไหมเนี่ย
ฉันรู้สึกสับสนมากๆ
เวลาเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน
ฉันชอบเธอจริงๆนะ
และก็ต้องการเธอด้วย เธอต้องการฉันม้ะ เธอคิดเหมือนกันรึป่าว 

It's like everything you say is a sweet revelation
All I wanna do is get into your head
Yeah we could stay alone, you and me, in this temptation
Sipping on your lips, hanging on by thread, baby

มันเหมือนว่ามีอะไรเธอก็ไม่ปิดปังฉัน
ฉันอยากเข้าไปในความคิดของเธอจัง
ความจริงฉันน่าจะอยู่ด้วยกันสองคนนะ
แล้วจูบกัน...

Late night, watching television
But how'd we get in this position?
It's way too soon, I know this isn't love
But I need to tell you something

นั่งดูทีวีกันตอนดึกๆ
แล้วเรามาอยู่ตรงนี้กันได้ไงเนี่ย
มันน่าจะเร็วเกินไปนะ มันไม่น่าใช่ความรักหรอก
เเต่ก็จะบอกอย่างนึงให้เธอรู้นะ

I really really really really really really like you
And I want you. Do you want me? Do you want me too?
I really really really really really really like you
And I want you. Do you want me? Do you want me too?

ฉันชอบเธอมากๆเลยน้าาาาา
และก็ต้องการเธอด้วย เธอต้องการฉันม้ะ เธอคิดเหมือนกันรึป่าว

Oh, did I say too much?
I'm so in my head
When we're out of touch (When we're out of touch)
I really really really really really really like you
And I want you. Do you want me? Do you want me too?

เห่ย ฉันพูดไรเยอะไปไหมเนี่ย
ฉันรู้สึกสับสนมากๆ
เวลาเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน
ฉันชอบเธอจริงๆนะ
และก็ต้องการเธอด้วย เธอต้องการฉันม้ะ เธอคิดเหมือนกันรึป่าว 

Who gave you eyes like that?
Said you could keep them?
I don't know how to act
Or if I should be leaving
I'm running out of time
Going out of my mind
I need to tell you something
Yeah, I need to tell you something

เธอได้สายตาแบนั้นมาจากใคร
เธอควรจะรักษามันไว้ดีๆนะ
ฉันไม่รู้จะทำยังไงเลย
หรือว่าฉันต้องไปแล้ว
หมดเวลาของฉันแล้วรึป่าว
ฉันอยากจะบอกบางอย่างกับเธอนะ
จะบอกอะไรสักอย่าง..

I really really really really really really like you
And I want you. Do you want me? Do you want me too?
I really really really really really really like you (Oh, oh, ohh!)
And I want you. Do you want me? Do you want me too? (Do you want me, too?)

ฉันชอบเธอมากๆเลยน้าาาาา
และก็ต้องการเธอด้วย เธอต้องการฉันม้ะ เธอคิดเหมือนกันรึป่าว

Oh, did I say too much? (Did I say too much?)
I'm so in my head (I'm so in my head)
When we're out of touch (When we're out of touch!)
I really really really really really really like you 
And I want you. Do you want me? Do you want me too?

เห่ย ฉันพูดไรเยอะไปไหมเนี่ย
ฉันรู้สึกสับสนมากๆ
เวลาเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน
ฉันชอบเธอจริงๆนะ
และก็ต้องการเธอด้วย เธอต้องการฉันม้ะ เธอคิดเหมือนกันรึป่าว 

I really really really really really really like you
And I want you. Do you want me? Do you want me too? (Yeah, I need to tell you 
something)
I really really really really really really like you (Oh, yeah!)
And I want you. Do you want me? Do you want me too?

ฉันชอบเธอมากๆเลยน้าาาาา
และก็ต้องการเธอด้วย เธอต้องการฉันม้ะ เธอคิดเหมือนกันรึป่าว

วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2558

รีวิวอัลบั้ม1989 - Taylor Swift

1989 - Taylor Swift

Rating : 7.5/10

เป็นอัลบั้มที่ 5 ของเจ้าหญิงเทย์เลอร์แล้วนะครับ อัลบั้มนี้มันpopล้วนๆจริงๆครับ55 ถ้าพูดถึงความหลากหลายอาจจะทำได้ไม่เท่าRedครับ แต่ถ้าใครที่ชอบเพลงPopนี่ต้องอัลบั้มนี้เลย ในอัลบั้มนี้แนวทางการทำเพลงของเทย์ต่างจากอัลบั้มอื่นๆชัดเจน เพลงแรกที่เทย์ปล่อยออกมาคือ shake it off ซึ่งเพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้มก็จะเป็นแนวนี้ อัลบั้มนี้เทย์เรียกได้ว่าตัดขาดจากความเป็นCountryไปเลยก็ว่าได้ซึ่งผมคิดว่าก็จะมีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ บางคนอาจจะชอบเทย์ในรูปแบบนี้หรือบางคนอาจจะอยากให้เทย์ทำเพลงเหมือนในFearlessหรือSpeak now ที่ยังมีกลิ่นอายเป็นCountryอยู่อันนี้ก็คงต้องไปบอกเทย์กันเองแล้วหล่ะครับ555 ส่วนตัวผมค่อนข้างชื่นชอบอัลบั้มนี้นะ ถึงจะมีเพลงPopDanceเยอะมากๆแต่ก็ยังมีเพลงที่ถ่ายทอดอารมณ์ลึกซึ้งๆที่เทย์เคยทำมาในทุกอัลบั้มอยู่เช่น You R In Love หรือ This Love แถมยังแอบมีเพลงที่คล้ายๆกับแนวของ Lana Del Ray ซึ่งเราจะไม่เคยได้ยินเทย์ทำเพลงแนวนี้มาก่อนมาอีกด้วย คือเพลง Wildest Dream ต่อมาเราจะมาเจาะกันทีละเพลงนะค้าบ

1. Welcome to NewYork : 6.5/10
     
    เพลงแรกเปิดมาก็เป็นเพลงPopเต็มตัวแล้วค้าบ น่าสนใจมากในช่วงของต้นเพลงแต่พอไปๆมาๆผมคิดว่าทุกคนก็คงจะมองว่ามันซ้ำๆเกินไปเหมือนผมแหละ ส่วนตัวชอบท่อนที่ลากเสียงยาวๆของเพลงนี้มากที่สุดแล้วครับ ดูน่าสนใจดีแต่ยังไม่ค่อยประทับใจในเพลงนี้เท่าไหร่

2. Blank Space : 8.5/10
    
   เพลงPopแท้ๆเหมือนเดิมครับในtrackที่2นี้แต่ถ้าเทียบกันแล้ว โอ้ววว ต่างมากกก เพลงนี้แค่ดนตรีเปิดมาก็น่าสนใจมากๆแล้วครับ แล้วไหนจะท่อนฮุกที่ติดหูสุดๆ มีบีทเพลงที่หนึบมาก อีกทั้งมีเสียงเอฟเฟคเล็กๆน้อยๆประกอบตลอดเวลา นั่งๆอยู่แค่ได้ยินก็อารมณ์ดีแล้ว สุดยอดมากๆครับเพลงนี้ แล้วเทย์ก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เลือกเพลงนี้ตัดเป็นซิงเกิ้ลเรียบร้อยครับ ฟังทีนี่นั่งโยกไปมาเลยเพลงนี้

3. Style : 8.75/10
  
    แค่ชื่อเพลงมาผมรู้นะว่าทุกๆคนก็ต้องคิดว่าต้องเกี่ยวกับ Harry แน่นอน55 ไม่มีคำอะไรจะให้กับเพลงนี้นอกจากครับว่ายอดเยี่ยมครับ เพลงนี้เป็นแนว Pop-Rock ที่มีบีทจังหวะเร็วพอสมควรแต่ร้องช้า (งงม้ะ55) เพลงนี้ไม่ได้สนุกเหมือนเพลงก่อนหน้านี้แล้วแต่ฟังแล้วมันอินมากๆคำ โดยเฉพาะกับการร้องแบบแบ่งคำเป้ะๆของเทย์ในเพลงนี้เช่นในท่อนฮุกของเพลง ฟังแล้วมันติดหูจริงๆ มีการใช้คำเปรียบเทียบซึ่งเรียกได้ว่าเป็นลายเซ็นของเทย์เหมือนเดิมครับ สุดยอดมากเพลงนี้

4. Out of the wood : 9.25/10

   เป็นPop-Rockที่บีทจังหวะเพลงเร็วแต่อารมณ์เพลงหม่นๆครับ คล้ายๆกับ Style แต่จะดูมืดกว่าหม่นกว่า เพลงนี้จุดเด่นอยู่ที่ท่อน verse ของเพลงครับ ที่เทย์ร้องรัวๆ (Remember when you hit the break too soon) << ท่อนนี้เลย ฟังแล้วเศร้าไปพร้อมกับเทย์เลยครับ เพลงนี้เป็นเพลงที่สื่ออารมณ์ออกมาชัดมากครับ เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของอัลบั้มเลยครับเพลงนี้แล้ว ถ้าใครไปดูเนื้อร้องของเพลงนี้จะเห็นว่าเทย์ใช้คำแต่งได้ลึกซึ้งและสุดยอดจริงๆครับเพลงนี้ ต้องฟังให้ได้นะครับๆ

5. All you has to do was stay : 7.5/10 

   เพลงนี้ไม่มีอะไรจะพูดมากครับ เป็นเพลงเร็วบีทเร็วแบบสนุกเลยแหละแต่เนื้อหาเจ็บแสบมากครับ ส่วนตัวมองว่าเพลงนี้ไม่ได้โดดเด่นไปกว่าเพลงอื่นในอัลบั้มเลยครับ55

6. Shake it off : 7.5/10

   เป็นซิงเกิ้ลเปิดตัวอัลบั้มเลยครับเพลงนี้จึงได้ฟังเพลงนี้ก่อนเพลงอื่นๆ ครั้งแรกที่ได้ยินเพลงนี้ความรู้สึกแบบ "เห้ย นี่มัน pop ล้วนๆเลยนะเทย์ เปลี่ยนแนวแล้วอ้อ" อารมณ์นี้เลยครับ555 เพลงนี้เนื้อหานี่บอกให้ทุกคนมาเต้น555 มันส์มากครับเพลงนี้ อารมณ์ดีสุดๆแต่ก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นขึ้นมามากมายครับ แฮร่

7. I wish you would : 6.5/10

   ธรรมดาจริงๆครับเพลงนี้ ต้องลองฟังกันเอาดูเอง55 ฟังครั้งแรกโอเคนะครับแต่ฟังครั้งอื่นแล้วนี่เฉยๆสุดๆเลย เป็๋นเพลงที่ผมจะไม่ค่อฟังเท่าไหร่ในอัลบั้ม

8. Bad blood : 5.5/10

   บางคนก็ชอบเพลงนี้นะครับแต่ทำไมผมฟังรู้สึกมันฟังมั่วๆยังไงไม่รูั555 เพลงนี้ไม่รู้จะพูดอะไรเลยจริงๆ เนื้อหาเพลงจิกกัดแสบมากครับ จริงๆ55

9. Wildest dreams : 9/10

   เพลงนี้ฟังครั้งแรกผมนึกว่าLana Del Ray มาเองเลย55 มันใช่ๆเลยจริงนะช่วงท่อนVerseตอนต้นและก็ดนตรี ให้อารมณ์เพลงหม่นๆแล้วช่วงฮุกก็จะดูสว่างๆขึ้นมานิดๆ ลงตัวมากครับเพลงนี้ เป็นเพลงที่สร้างสีสันให้อัลบั้มเลยครับ เยี่ยมๆๆๆ

10. How you get the girl : 6/10

   เพลงPopอีกแล้วค้าบ55 เป็นเพลงสนุกอีกเพลงนึงในอัลบั้มนี้ค้าบ แต่ก็ไม่มีอะไรโดดเด่นมาก ส่วนตัวถ้าเทียบกันชอบเพลงอื่นมากกว่า

11. This love : 8.5/10

   เพลงนี้พอฟังแล้วแว้บแรกนี่ผมนึกถึงEnchantedในอัลบั้มSpeak NowผสมกับAll too wellจากอัลบั้มRedเลยครับ มันเหมือนจริงๆนะ55 เป็นเพลงช้าไม่กี่เพลงในอัลบั้มนี้ครับ อารมณ์เพลงแบบลอยๆฟังสบายๆ ไหลลื่นไปเรื่อยๆทั้งเพลงแต่ฟังแล้วก็ไม่เบื่อ จะดูโดดขึ้นมาในท่อน Brige พอสมควรเลยครับ ถือว่าเทย์ทำออกมาได้ดีมากๆเลยเพลงนี้

12. I know places : 8/10

   ไม่เคยซาวน์เพลงแนวนี้ของเทย์เลยครับ ถือว่าแหวกแนวไปมากและก็ทำออกมาได้ดีมากด้วยครับ เพลงนี้ใช้ซาวน์ค่อนข้างหนักแน่นมาก อารมณ์ไม่หม่นมากแต่ก็ค่อนข้างมืดๆครับ สิ่งที่ต้องชมในเพลงนี้คือเมโลดี้ของเพลงมีเอกลักษณ์มากๆครับ ฟังทีเดียวนี่รู้เลยว่าเป็นเพลงนี้

13. Clean : 7/10

   นุ่มนิ่มมากครับเพลงนี้555 นุ่มจริงๆ เพลงนี้เน้นเรียบทั้งเพลงครับ เมโลดี้น่ารัก ฟังแล้วเพลิน แต่นานๆก็หลับได้น้า555 ถ้าอยากฟังเพลงเมโลดี้สบายๆเบาๆต้องเพลงนี้เลยค้าบ


 




วันเสาร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557

แปลเพลง If I could change your mind - HAIM


ความหมายเพลงแนวเสียคนรักไปแล้วนึกถึงอดีตครับ

No, please don't cry
I've never done this before, drove a million miles
Back, when you were mine
I was too young to know you were the one to find

อย่า อย่าร้องไห้นะ
ฉันไม่เคยที่จะทำอะไรแบบนี้มาก่อน ขับรถเป็นล้านไมล์
ย้อนกลับไป ตอนที่เธอยังเป็นของฉัน

ฉันยังเด็กเกินไปกว่ามที่จะรู้ว่าเธอคือคู่แท้ของฉัน

But if I was to say I regret it
Would it mean a thing?
Cause every time I think (I think) think about it
Memories take me back to all of the wildest times

และถ้าฉันจะบอกว่าฉันเสียใจ
มันจะมีความหมายอะไรไหม
เพราะทุกครั้งที่ฉันคิดถึงเรื่องนี้

มันทำให้ฉันนึกถึงตอนที่โดดเดี่ยว

If I could change your mind
I would hit the ground running
It took time to realize
And I never saw it coming
Forgive my lying eyes
Gonna give you all or nothing
If I could change your mind
I could make you mine, make you mine

ถ้าฉันสามารถเปลี่ยนใจเธอได้
ฉันจะทำมันให้ดีที่สุด
มันทำให้ฉันคิด
แต่มันก็ไม่อาจที่จะเป็นจริงได้

ลืมสายตาขี้โกหกของฉันซะ
ฉันจะให้เธอไปทุกๆอย่างของฉัน
ถ้าฉันเปลี่ยนใจของเธอได้
ถ้าฉันทำให้เธอเป็นของฉันได้ 


Now I won't go
I won't run away this time
But all I wanna know

ตอนนี้ฉํนจะไม่ไปไหน
ฉํนไม่อยากไปไหนอีกแล้วในตอนนี้
แต่ที่ฉันอยากจะรู้คือ

But if I was to say I'll forget it
Would it mean a thing?
Cause every time I think (I think) about it
Memories take me back to all of the wildest times

ถ้าฉันจะบอกว่าฉันเสียใจ
มันจะมีความหมายอะไรไหม
เพราะทุกครั้งที่ฉันคิดถึงเรื่องนี้

มันทำให้ฉันนึกถึงตอนที่โดดเดี่ยว

If I could change your mind
I would hit the ground running
It took time to realize
And I never saw it coming
Forgive my lying eyes
Gonna give you all or nothing
If I could change your mind
I could make you mine, make you mine

ถ้าฉันสามารถเปลี่ยนใจเธอได้
ฉันจะทำมันให้ดีที่สุด
มันทำให้ฉันคิด
แต่มันก็ไม่อาจที่จะเป็นจริงได้

ลืมสายตาขี้โกหกของฉันซะ
ฉันจะให้เธอไปทุกๆอย่างของฉัน
ถ้าฉันเปลี่ยนใจของเธอได้
ถ้าฉันทำให้เธอเป็นของฉันได้ 


Visions of our love pass right by me
Your eyes are enough to remind me
Visions of our love pass right by me
Your eyes are enough to remind me
Visions of our love remind me

เรื่องราวความรักของเรามันผ่านไปแล้ว
สายตาของเธอมันทำให้ฉันนึกคิด
เรื่องราวความรักของเรามันผ่านไปแล้ว
สายตาของเธอมันทำให้ฉันนึกคิด

เรื่องราวความรักของเรามันทำให้ฉันนึกได้

If I could change your mind
I would hit the ground running
It took time to realize
And I never saw it coming
Forgive my lying eyes
Gonna give you all or nothing
If I could change your mind
I could make you mine, make you mine

ถ้าฉันสามารถเปลี่ยนใจเธอได้
ฉันจะทำมันให้ดีที่สุด
มันทำให้ฉันคิด
แต่มันก็ไม่อาจที่จะเป็นจริงได้

ลืมสายตาขี้โกหกของฉันซะ
ฉันจะให้เธอไปทุกๆอย่างของฉัน
ถ้าฉันเปลี่ยนใจของเธอได้
ถ้าฉันทำให้เธอเป็นของฉันได้
 

Visions of our love remind me
(If could change your mind)
Visions of our love remind me
(It took time to realize)
Visions of our love remind me
(Forgive my lying eyes)
Visions of our love remind me
(If I could change your mind, I could make you mine...)

เรื่องราวความรักของเรามันทำให้ฉันนึกได้
ถ้าฉันสามารถเปลี่ยนใจเธอได้
เรื่องราวความรักของเรามันทำให้ฉันนึกได้
มันทำให้ฉันคิด
เรื่องราวความรักของเรามันทำให้ฉันนึกได้
ลืมสายตาขี้โกหกของฉันซะ
เรื่องราวความรักของเรามันทำให้ฉันนึกได้
ถ้าฉันเปลี่ยนใจของเธอได้ ทำให้เธอเป็นของฉันได้ 




วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

แปลเพลง Team - Lorde

ผลงานจาก Lorde หลังจากที่เธอประสบความสำเร็จมากๆกับเพลง Royals ครับ
เพลงนี้สไตล์แปลกๆ แต่ก็เป็นแนวที่เป็นเอกลักษณ์ของ Lorde เขาอยู่แล้ว แต่ก้เพราะในสไตล์Lordeครับ ^_^

Wait 'til you’re announced
We’ve not yet lost all our graces
The hounds will stay in chains
Look upon your greatness
That you’ll send
The call I'll send

รอจนกว่าพวกเขาจะประกาศที่เธอออกมา
เรายังไม่ได้เสียความดีในตัวของเราไปทั้งหมดหรอก
เพราะความชั่วนั้นมันจะถูกโซ่ล่ามเอาไว้
และได้แต่มองดูเธอประสบความสำเร็จ
ที่เธอจะส่งมันออกไป
ที่จะส่งออกไป

Call all the ladies out
They’re in their finery
A hundreds jewels on throats
A hundred jewels between teeth
Now bring my boys in
Their skin in craters like the moon
The moon we love like a brother, while he glows through the room

เรียกผู้หญิงทั้งหมดออกมา
พวกเขาใส่เสื้อที่ดูดีมากๆ
มีอัญมณีต่างๆประดับรอบคอเป็นร้อย
มีอัญมณีเป็นร้อยอยู่ที่ระหว่างฟัน
ตอนนี้พาผู้ชายของฉันเขามาได้แล้ว
ผิวของเขาขรุขระอย่างกับพระจันทร์
พระจันทร์ที่พวกเรารักเหมือนเป็นพี่ชาย ขณะที่เขากำลังส่องแสงสว่างไปทั่วห้อง

Dancin' around the lies we tell
Dancin' around big eyes as well
Even the comatose they don’t dance and tell

เต้นไปรอบๆสิ่งที่เราโกหกเถอะ
เต้นไปรอบๆดวงตากลมโตนั่นเช่นกัน
แต่ถึงแม้จะโคม่า เขาก้ยังไม่เต้นและบอกอะไรทั้งนั้น

We live in cities you'll never see on screen
Not very pretty, but we sure know how to run free
Living in ruins of the palace within my dreams
And you know, we're on each other's team

เราอยู่ในเมืองที่เธอจะไม่เคยเห็นในฉากละคร
ไม่ได้ดีอะไรมากมาย แต่เรารู้ดีที่จะอยู่กับมัน
อาศัยอยู่ในเศษซากของประสาทในความฝัน
และเธอก็รู้ เขามีกันและกัน

I'm kind of over getting told to throw my hands up in the air, so there
So all the cups got broke shards beneath our feet but it wasn’t my fault
And everyone’s competing for a love they won't receive
'Cause what this palace wants is release

ฉันชินกับการที่โดนบอกให้ชูมือขึ้นฟ้า
พวกแก้วที่แตกอยู่ตรงเท้าเรา มันไม่ใช่ความผิดฉันนะ
และทุกๆคนก็กำลังต่อสู้เพื่อตามหาสิ่งที่เขาขาดหาย "ความรัก"
เพราะสิ่งที่ปราสาทหลังนี้ต้องการ คืออิสระ

We live in cities you'll never see on screen
Not very pretty, but we sure know how to run free
Living in ruins of the palace within my dreams
And you know, we're on each other's team

เราอยู่ในเมืองที่เธอจะไม่เคยเห็นในฉากละคร
ไม่ได้ดีอะไรมากมาย แต่เรารู้ดีที่จะอยู่กับมัน
อาศัยอยู่ในเศษซากของประสาทในความฝัน
และเธอก็รู้ เขามีกันและกัน

I’m kind of over getting told to throw my hands up in the air
So there
I’m kinda older than I was when I revelled without a care
So there

ฉันชินกับการที่โดนบอกให้ชูมือขึ้นฟ้า
ฉันแก่ขึ้นมากแล้วตากตอนที่ฉันมัวแต่เล่นและไม่แคร์อะไร
เพราะฉะนั้น

We live in cities you'll never see on screen
Not very pretty, but we sure know how to run free
Living in ruins of the palace within my dreams
And you know, we're on each other's team

เราอยู่ในเมืองที่เธอจะไม่เคยเห็นในฉากละคร
ไม่ได้ดีอะไรมากมาย แต่เรารู้ดีที่จะอยู่กับมัน
อาศัยอยู่ในเศษซากของประสาทในความฝัน
และเธอก็รู้ เขามีกันและกัน

We're on each other's team
And you know, we're on each other's team
We're on each other's team
And you know, and you know, and you know

เราอยู่ในทีมของกันและกันนะ
เธอก็รู้ เราอยู่ในทีมของกันและกันนะ



วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2556

แปลเพลง Adore you - Miley Cyrus

เป็นเพลงหวานๆจาก Miley Cyrus ที่ความหมายทั้งหมดคือการบรรยายถึงความรักที่มีให้ต่อผู้ชายคนนั้นค้าบ

Oh, oh, hey, oh ooh, ooh
Baby, baby, yeah
Are you listening?
Wondering where you've been all my life
I just started living
Ooh oh, baby
Are you listening?



นี่ที่รัก
เธอฟังอยู่รึเปล่า
ทบทวนว่าในช่วงที่ผ่านมานั้นเธอไปอยู่ที่ไหน
ชีวิตเพิ่งได้เริ่มขึ้น
นี่ที่รัก
เธอฟังอยู่รึเปล่า



When you say you love me
Know I love you more
And when you say you need me
Know I need you more
Boy, I adore you
I adore you



เมื่อเธอบอกว่าเธอรักฉัน
รู้ไว้ว่าฉันรักเธอมากกว่า
และเมื่อเธอบอกว่าเธอต้องการฉัน

รู้เอาไว้ว่าฉันต้องการเธอมากกว่า
นี่เธอ ฉันรักเธอ
ฉันชื่นชมและรักในตัวเธอ



Baby, can ya hear me when I'm crying out for you?
I'm scared, oh, so scared
But when you're near me I feel like I'm standing with an army
A man armed with weapons
Hey, oh


นี่ที่รัก ได้ยินไหม เสียงที่ฉันร้องไห้เพื่อเธอ
ฉันกลัว ฉันกลัว
แต่เมื่อเธอมาอยู่ใกล้ฉัน มันเหมือนกับฉันมีทหารคอยปกป้อง
ผู้ชายที่มีอาวุธครบมือ




When you say you love me
Know I love you more
And when you say you need me
Know I need you more
Boy, I adore you
I adore you



เมื่อเธอบอกว่าเธอรักฉัน
รู้ไว้ว่าฉันรักเธอมากกว่า
และเมื่อเธอบอกว่าเธอต้องการฉัน

รู้เอาไว้ว่าฉันต้องการเธอมากกว่า
นี่เธอ ฉันรักเธอ
ฉันชื่นชมและรักในตัวเธอ



I love lying next to you
I could do this for eternity
You and me were meant to be in holy matrimony
God knew exactly what he was doing when he led me to you


ฉันชอบที่จะนอนอยู่ข้างๆเธอ
ฉันจะทำแบบนี้ตลอดไป
เธอกับฉันนั้นเกิดมาคู่กันในงานแต่งงาน
พระเจ้ารู้ว่ากำลังทำอะไรเมื่อท่านให้ฉันได้มาพบเธอ




When you say you love me
Know I love you more (I love you more)
When you say you need me
Know I need you more
Boy, I adore you
I adore you



เมื่อเธอบอกว่าเธอรักฉัน
รู้ไว้ว่าฉันรักเธอมากกว่า
และเมื่อเธอบอกว่าเธอต้องการฉัน

รู้เอาไว้ว่าฉันต้องการเธอมากกว่า
นี่เธอ ฉันรักเธอ
ฉันชื่นชมและรักในตัวเธอ



When you say you love me
Know I love you more
And when you say you need me
Know I need you more
Boy, I adore you
I adore you



เมื่อเธอบอกว่าเธอรักฉัน
รู้ไว้ว่าฉันรักเธอมากกว่า
และเมื่อเธอบอกว่าเธอต้องการฉัน

รู้เอาไว้ว่าฉันต้องการเธอมากกว่า
นี่เธอ ฉันรักเธอ
ฉันชื่นชมและรักในตัวเธอ




วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2556

แปลงเพลง Story of my life - One Direction

เปนเพลงของ 1D อีกเพลงที่เพราะมากๆ <3

Written in these walls are the stories that I can't explain

I leave my heart open but it stays right here empty for days
She told me in the morning she don't feel the same about us in her bones
It seems to me that when I die these words will be written on my stone

เขียนอยู่บนกำแพง ถึงเรื่องราวต่างที่อธิบายไม่ได้

ฉันเปิดหัวใจของฉันเอาไว้ แต่มันก็ยังคงว่างอยู่
เธอบอกฉันในตอนเช้าว่าเรามันเข้ากันไม่ได้
มันจะเป็นคำที่เขียนบนหลุมศพฉัน

And I'll be gone gone tonight
The ground beneath my feet is open wide
The way that I been holdin' on too tight
With nothing in between

ฉันคงจะไปแน่นอน
เหมือนกับว่าพื้นดินมันเปิดทางให้ฉันแล้ว

แต่ทางนั้นมันแน่นอึดอัดเหลือเกิน
ไม่มีอะไรมาขั้นกลาง

The story of my life I take her home
I drive all night to keep her warm and time
Is frozen (the story of, the story of)
The story of my life I give her hope
I spend her love until she's broke inside
The story of my life (the story of, the story of)

เรื่องราวของฉัน ฉันพาเธอกลับบ้าน
ฉันขับรถพาเธอไปทั้งคืน ให้เธออบอุ่น
และอยากจะหยุดเวลานั้นไว้จริงๆ
เรื่องราวของฉัน ฉันให้ความหวังกับเธอ
ฉันให้ความรักแก่เธอ จนเธอรู้สึกว่ามันไม่ใช่
นี่แหละ เรื่องราวชีวิตของฉัน

Written on these walls are the colors that I can't change
Leave my heart open but it stays right here in its cage
I know that in the morning
I'll see us in the light upon your ear
Although I am broken, my heart is untamed still

เขียนไว้บนกำแพง สิ่งที่มันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้
ฉันเปิดหัวใจของฉันไว้ แต่มันเหมือนอยู่ในกลง
ฉันรู้ถึงมันในตอนเช้า
ฉันเห็นเรื่องระหว่างเรา
แม้ว่าฉันจะอกหัก แต่หัวใจมันก็ยังไม่เข็ด

And I'll be gone gone tonight
The fire beneath my feet is burning bright
The way that I been holdin' on so tight
With nothing in between

ฉันคงจะไปแน่นอน
เหมือนกับว่าพื้นดินมันเปิดทางให้ฉันแล้ว

แต่ทางนั้นมันแน่นอึดอัดเหลือเกิน
ไม่มีอะไรมาขั้นกลาง

The story of my life I take her home
I drive all night to keep her warm and time
Is frozen (the story of, the story of)
The story of my life I give her hope
I spend her love until she's broke inside
The story of my life (the story of, the story of)

เรื่องราวของฉัน ฉันพาเธอกลับบ้าน
ฉันขับรถพาเธอไปทั้งคืน ให้เธออบอุ่น
และอยากจะหยุดเวลานั้นไว้จริงๆ
เรื่องราวของฉัน ฉันให้ความหวังกับเธอ
ฉันให้ความรักแก่เธอ จนเธอรู้สึกว่ามันไม่ใช่
นี่แหละ เรื่องราวชีวิตของฉัน

And I been waiting for this time to come around
But baby running after you is like chasing the clouds

ฉันเผ้ารอเวลาเหล่านั้นมานานมาก
แต่การวิ่งตามหลังเธอ มันเหมือนวิ่งตามก้อนเมฆ

The story of my life I take her home
I drive all night to keep her warm and time
Is frozen

เรื่องราวของฉัน ฉันพาเธอกลับบ้าน
ฉันขับรถพาเธอไปทั้งคืน ให้เธออบอุ่น
และอยากจะหยุดเวลานั้นไว้จริงๆ

The story of my life I give her hope (give her hope)
I spend her love until she's broke inside (until she's broke inside)
The story of my life (the story of, the story of)
The story of my life
The story of my life (the story of, the story of)
The story of my life

เรื่องราวของฉัน ฉันให้ความหวังกับเธอ

ฉันให้ความรักแก่เธอ จนเธอรู้สึกว่ามันไม่ใช่
นี่แหละ เรื่องราวชีวิตของฉัน



วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556

แปลเพลง Someone else - Miley Cyrus

If you're looking for love
Know that love don't live here anymore
He left with my heart
They both walked through that door without me
If you're trying to find pity well you need to look somewhere else
'Cause I surely can't help you
I'm hurting myself
I've turned into someone else

ถ้าเธอกำลังมองหาความรัก
รู้ไว้ด้วยว่าไม่มีความรักสำหรับที่นี่อีกต่อไป
เขาจากไปพร้อมกับหัวใจของฉัน
พวกเขาเดินออกจากประตูไปโดยไม่มีฉัน
ถ้าเธอจะหาความเห็นใจ เธอคงต้องไปที่อื่น
เพราะฉันจะไม่ช่วยอะไรเธอ
ฉันทำร้ายจิตใจตัวเอง
ฉันเปลี่ยนไปเป็นคนละคนแล้ว

I used to believe love conquered all
'Cause that's what I've seen in movies
Come to find out it's not like that at all
You see real life's much different

ฉันเคยเชื่อว่าความรักนั้นชนะทุกอย่าง
เพราะนั่นคือสิ่งที่ฉันเห็นในหนัง
แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น
เธอจะเห็นว่าชีวิตจริงมันแตกต่างออกไปมาก

I don't wanna see you go
I only wanna see you smile
It hurts so much just thinking of
Felt like this for awhile
I can't stand to see us fail
We cried we lied
Cannot pretend to take us back
To what we had, to make us feel alive again
Hold me close, don't let me go, I hope
Tell me that now is not the end

ฉันไม่อยากที่จะให้เธอจากไป
ฉันต้องการแค่อยากจะเห็นเธอยิ้ม
มันเจ็บปวดมากแค่ที่คิดถึงเรื่องพวกนี้
ฉันรู้สึกอย่างนี้ไปสักพักนึง
ฉันไม่สามารถที่จะยืนดูพวกเราแตกหักได้
เราร้องไห้ เราต่างโกหก
เสแสร้งไปก็ช่วยให้ระหว่างเรามันกลับคืนมาไม่ได้
สิ่งที่เราเคยมี เพื่อที่จะให้เราต่างมีชีวิตอีกครั้ง
โอบกอดฉันไว้ อย่าทิ้งฉันไปไหน ฉันวังอย่างนั้น
บอกฉันทีว่านี่ยังไม่ใช่จุดจบ

If you're looking for love
Know that love don't live here anymore
He left with my heart
They both walked through that door without me
If you're trying to find pity well you need to look somewhere else
'Cause I surely can't help you
I'm hurting myself
I've turned into someone else
I've turned into someone else

ถ้าเธอกำลังมองหาความรัก
รู้ไว้ด้วยว่าไม่มีความรักสำหรับที่นี่อีกต่อไป
เขาจากไปพร้อมกับหัวใจของฉัน
พวกเขาเดินออกจากประตูไปโดยไม่มีฉัน
ถ้าเธอจะหาความเห็นใจ เธอคงต้องไปที่อื่น
เพราะฉันจะไม่ช่วยอะไรเธอ
ฉันทำร้ายจิตใจตัวเอง
ฉันเปลี่ยนไปเป็นคนละคนแล้ว

I used to believe love conquered all
'Cause that's what I felt when you held me
I thought you'd catch me if I fall
And fill me up when I'm empty

ฉันเคยเชื่อว่าความรักชนะทุกอย่าง
เพราะนั่นคือสิ่งที่ฉันเคยรู้สึกเวลาเธอโอบฉัน
ฉันคิดว่าเธอจะช่วงพยุงฉันไว้เวลาล้มลง
และช่วยเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป

I don't wanna see you go
I only wanna see you smile
It hurts so much just thinking of
Felt like this for awhile
I can't stand to see us fail
We cried we lied
Cannot pretend to take us back
To what we had, to make us feel alive again
Hold me close, don't let me go, I hope
Tell me that now is not the end

ฉันไม่อยากที่จะให้เธอจากไป
ฉันต้องการแค่อยากจะเห็นเธอยิ้ม
มันเจ็บปวดมากแค่ที่คิดถึงเรื่องพวกนี้
ฉันรู้สึกอย่างนี้ไปสักพักนึง
ฉันไม่สามารถที่จะยืนดูพวกเราแตกหักได้
เราร้องไห้ เราต่างโกหก
เสแสร้งไปก็ช่วยให้ระหว่างเรามันกลับคืนมาไม่ได้
สิ่งที่เราเคยมี เพื่อที่จะให้เราต่างมีชีวิตอีกครั้ง
โอบกอดฉันไว้ อย่าทิ้งฉันไปไหน ฉันวังอย่างนั้น
บอกฉันทีว่านี่ยังไม่ใช่จุดจบ

If you're looking for love
Know that love don't live here anymore
He left with my heart
They both walked through that door without me
If you're trying to find pity well you need to look somewhere else
'Cause I surely can't help you
I'm hurting myself
I've turned into someone else

ถ้าเธอกำลังมองหาความรัก
รู้ไว้ด้วยว่าไม่มีความรักสำหรับที่นี่อีกต่อไป
เขาจากไปพร้อมกับหัวใจของฉัน
พวกเขาเดินออกจากประตูไปโดยไม่มีฉัน
ถ้าเธอจะหาความเห็นใจ เธอคงต้องไปที่อื่น
เพราะฉันจะไม่ช่วยอะไรเธอ
ฉันทำร้ายจิตใจตัวเอง
ฉันเปลี่ยนไปเป็นคนละคนแล้ว

Love is patient
Love is selfless
Love is hopeful
Love is kind
Love is jealous
Love is selfish
Love is helpless
Love is blind
I've turned into someone else

ความรักคือการอดทน
ความรักคือการเสียสละ
ความรักคือความหวัง
ความรักคือความน่ายินดี
ความรักคือความอิจฉา
ความรักคือความเห็นแก่ตัว
ความรักคือความไร้ประโยชน์
ความคือคือความบอด
ฉันเปลี่ยนไปเป็นคนละคนแล้ว